1
นิทาน / Re: นิทานชาดก เรื่อง กระต่ายผู้สละชีวิต
« เมื่อ: พฤศจิกายน 18, 2019, 04:30:42 PM »
จึงร้องขึ้น3ครั้งเพื่อบอกให้จ้ของปลารู้ มื่อไม่มีจ้าของปลานากจึงคาบเอาปลาทั้ง7 ตัวกลับไปยังที่ตนรักษาศีลอยู่ฝ่ายลิงก็เข้าไปในป่าได้มะม่วงมาแล้วก็กลับที่อยู่ที่ตนนอนรักษาศีล ส่วน
เจ้ากระต่ายรักษาศีลอยู่ในที่อยู่ของตน ไม่ได้ออกไปหาอาหารมาไว้ให้ทาน เพราะคิดที่จะสละชีวิตของตน จึงคิดในใจว่า
"ถ้ามีคนมาขออาหาร งา และข้าวสาร เราก็ไม่มี ถ้าเช่นนั้นเราจะให้เนื้อของเราแก่เขาก็แล้วกัน"
กระต่ายคิดแล้วก็นอนรักษาศีลต่อไปและด้วยความใฝ้ดีของกระต่ายทำให้ท้าวสักกะร้อนใจ จึงลงมาพิสูจน์การถือศีลของสัตว์ทั้งสี่ด้วยการแปลงร่างเป็นพราหมณ์ไปยังที่อยู่ของนากก่อนร้องขออาหารกับนาก นากจึงกล่าวว่า
"พราหมณ์ เรามีปลาตะเพียนอยู่7 ตัว ขอชิญท่านเข้ามากินเถิด" พราหมณีรับปลาไว้แล้วก็ไปที่อยู่ของสุนัขจิ้งจอก แล้วร้องขออาหารกับ
สุนัขจิ้งจอก สุนัขจิ้งจอกพูดว่า
"พราหมณ์ ข้ามีเนี้อย่าง 2 ไม้ ตัวงินตัวทอง 1 ตัว นมและส้ม 1 ตะกร้า เชิญท่านมากินเถิด"
พราหมณ์รับไว้แล้วก็ไปที่อยู่ของลิงเอ่ยปากขออาหารเช่นเคย ลิงก็มอบ อาหารให้พร้อมกับพูดว่า
"พราหมณ์ ข้มีมะม่วงสุกน้ำเย็นขอเชิญท่นมากินและพักผ่อนก่อนเถิด"พราหมณ์รับไว้แล้วก็ไปที่อยู่ของกระต่าย พร้อมร้องขออาหารเช่นเดิมกระต่ายจึงพูดว่า
"พราหมณ์ ขอเชิญท่านเตรียมก่อไฟเถิด เราไม่มีอะไรจะให้ท่าน นอกจากเนื้อของเรานี่แหละ ขอเชิญท่นกินเราเถิด"
เมื่อท้าวสักกะในร่างของพราหมณ์ได้ยินช่นนั้นจึงเนรมิตกองไฟขึ้น แล้วกระต่ายก็กระโดดเข้าไปในกองไฟทันที แต่ก็ต้องนึกแปลกใจว่าทำไมไฟจึงเย็นยิ่งนักกระต่ายจึงเอ่ยถามกับพราหมณ์ จึงได้คำตอบว่า
"กระต่ายผู้เสียสละ เราไม่ใช่พราหมณ์หรอกนะ เราเป็นท้าวสักกะ มาเพื่อทดสอบศีลของท่านเท่านั้นเอง"
กระต่ายเมื่อได้รู้ความจริงจึงบอกว่า
"ท่านท้าวสักกะ ท่านหวังจะทดสอบข้าเท่านั้นเองหรือ แล้วชาวโลกจะรู้ว่าข้าตั้งใจจะให้ชีวิตของข้าเป็นทานได้อย่างไรกันเล่า" ท้าวสักกะได้ยินเช่นนั้นจึงตอบว่า
"ไม่ต้องกังวลไป ความดีของทนในครั้งนี้จะปรากฎให้ชาวโลกได้เห็นตลอดไป"ว่าแล้วท้าวสักกะก็เขียนรูปกระต่ายไว้บนดวงจันทร์ เพื่อเป็นสัญลักษณ์ให้ชาวโลกได้เห็นนับแต่นั้นเป็นต้นมา จากนั้นสัตว์ทั้งตัวก็ได้รักษาศีลตราบจนสิ้นชีวิต
นิทานชาดกเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า : การรักษาศีลเป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับ
ชีวิตมนุษย์และสัตว์ เพราะผู้ที่รักษาศีลย่อมมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์หรือเทวดาคุ้มครองให้
ปลอดภัย ปราศจากอันตรายต่างๆ
เจ้ากระต่ายรักษาศีลอยู่ในที่อยู่ของตน ไม่ได้ออกไปหาอาหารมาไว้ให้ทาน เพราะคิดที่จะสละชีวิตของตน จึงคิดในใจว่า
"ถ้ามีคนมาขออาหาร งา และข้าวสาร เราก็ไม่มี ถ้าเช่นนั้นเราจะให้เนื้อของเราแก่เขาก็แล้วกัน"
กระต่ายคิดแล้วก็นอนรักษาศีลต่อไปและด้วยความใฝ้ดีของกระต่ายทำให้ท้าวสักกะร้อนใจ จึงลงมาพิสูจน์การถือศีลของสัตว์ทั้งสี่ด้วยการแปลงร่างเป็นพราหมณ์ไปยังที่อยู่ของนากก่อนร้องขออาหารกับนาก นากจึงกล่าวว่า
"พราหมณ์ เรามีปลาตะเพียนอยู่7 ตัว ขอชิญท่านเข้ามากินเถิด" พราหมณีรับปลาไว้แล้วก็ไปที่อยู่ของสุนัขจิ้งจอก แล้วร้องขออาหารกับ
สุนัขจิ้งจอก สุนัขจิ้งจอกพูดว่า
"พราหมณ์ ข้ามีเนี้อย่าง 2 ไม้ ตัวงินตัวทอง 1 ตัว นมและส้ม 1 ตะกร้า เชิญท่านมากินเถิด"
พราหมณ์รับไว้แล้วก็ไปที่อยู่ของลิงเอ่ยปากขออาหารเช่นเคย ลิงก็มอบ อาหารให้พร้อมกับพูดว่า
"พราหมณ์ ข้มีมะม่วงสุกน้ำเย็นขอเชิญท่นมากินและพักผ่อนก่อนเถิด"พราหมณ์รับไว้แล้วก็ไปที่อยู่ของกระต่าย พร้อมร้องขออาหารเช่นเดิมกระต่ายจึงพูดว่า
"พราหมณ์ ขอเชิญท่านเตรียมก่อไฟเถิด เราไม่มีอะไรจะให้ท่าน นอกจากเนื้อของเรานี่แหละ ขอเชิญท่นกินเราเถิด"
เมื่อท้าวสักกะในร่างของพราหมณ์ได้ยินช่นนั้นจึงเนรมิตกองไฟขึ้น แล้วกระต่ายก็กระโดดเข้าไปในกองไฟทันที แต่ก็ต้องนึกแปลกใจว่าทำไมไฟจึงเย็นยิ่งนักกระต่ายจึงเอ่ยถามกับพราหมณ์ จึงได้คำตอบว่า
"กระต่ายผู้เสียสละ เราไม่ใช่พราหมณ์หรอกนะ เราเป็นท้าวสักกะ มาเพื่อทดสอบศีลของท่านเท่านั้นเอง"
กระต่ายเมื่อได้รู้ความจริงจึงบอกว่า
"ท่านท้าวสักกะ ท่านหวังจะทดสอบข้าเท่านั้นเองหรือ แล้วชาวโลกจะรู้ว่าข้าตั้งใจจะให้ชีวิตของข้าเป็นทานได้อย่างไรกันเล่า" ท้าวสักกะได้ยินเช่นนั้นจึงตอบว่า
"ไม่ต้องกังวลไป ความดีของทนในครั้งนี้จะปรากฎให้ชาวโลกได้เห็นตลอดไป"ว่าแล้วท้าวสักกะก็เขียนรูปกระต่ายไว้บนดวงจันทร์ เพื่อเป็นสัญลักษณ์ให้ชาวโลกได้เห็นนับแต่นั้นเป็นต้นมา จากนั้นสัตว์ทั้งตัวก็ได้รักษาศีลตราบจนสิ้นชีวิต
นิทานชาดกเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า : การรักษาศีลเป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับ
ชีวิตมนุษย์และสัตว์ เพราะผู้ที่รักษาศีลย่อมมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์หรือเทวดาคุ้มครองให้
ปลอดภัย ปราศจากอันตรายต่างๆ